วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วิชา ระบบฐานข้อมูล

แบบฝึกหัดบทที่ 1



    ฐานข้อมูล (Database) หมายถึง กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน และนำมาจัดเก็บในที่เดียวกัน

     ระบบฐานข้อมูล (Database System) หมายถึง ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน รูปแบบเป็นระเบียบแบบแผน และจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน

      ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS)  Database Management System หมายถึง โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล เพื่ออำนวยความ สะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล   เสมือนเป็นตัวกลางระหว่าง ผู้ใช้กับฐานข้อมูล

1.สรุปเนื้อหาหน่วยที่ 1
     ฐานข้อมูล (Database) 
          ฐานข้อมูล  คือข้อมูลจำนวนมากที่มีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบในลักษณะของตาราง และข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นต่างมีความสัมพันธ์กัน
     ระบบฐานข้อมูล (Database System)
          ระบบฐานข้อมูล คือ ระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีความสัมพันธ์กัน เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน โดยมีรูปแบบการจัดเก็บที่เป็นระเบียบแบบแผน  และจัดเก็บไว้ในที่เดียวกัน เช่น ข้อมูลพนักงาน ข้อมูลลูกค้า ข้อมูลสินค้าคงคลัง และข้อมูลพนักงานขาย เป็นต้น
     ระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management System : DBMS)
          
ระบบจัดการฐานข้อมูล คือโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้ พร้อมกับกำหนดด้วยว่าให้ใช้ได้แบบใด เช่น ให้อ่านข้อมูลได้อย่างเดียว หรือให้แก้ไขข้อมูล ได้ด้วย
     
ประโยชน์ในการใช้ระบบฐานข้อมูล
          
เมื่อมีการนำระบบจัดการฐานข้อมูลมาใช้เพื่ออ านวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลแก้ไขปรับปรุงข้อมูล ค้นหาข้อมูล รวมทั้งกำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูล เป็นต้น ท าให้ฐานข้อมูลมีประโยชน์มากมาย ได้แก่
          1. ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลของหน่วยงานซึ่งจัดเก็บไว้หลายที่ อาจมีข้อมูลใน ส่วนที่เหมือนกันหลายส่วน เช่น ฝ่ายบัญชี เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน และฝ่ายบุคคล เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน เมื่อน าคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูล จะทำให้ไม่เก็บข้อมูลซ้ าซ้อนกัน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหาและจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
          2. ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล  ถ้ามีการแก้ชื่อ ถ้ามีการแก้ชื่อ ที่อยู่ ที่ฝ่ายบุคคล ชื่อและ ที่อยู่ที่ฝ่ายบัญชีก็จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วย เนื่องจากฝ่ายบัญชีจะดึงข้อมูลชื่อและที่อยู่จากฝ่ายบุคคลมาใช้ ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไขข้อมูลในที่ใดที่หนึ่ง ข้อมูลอีกที่หนึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
          3. ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล  ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการนำ เข้าข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล จะคอยควบคุมให้มีการนำเข้าข้อมูลเป็นไปตามกฎเกณฑ์เพื่อให้มีความถูกต้อง
          4. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้  การเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน จะสามารถกำหนดรูป แบบที่แน่นอนได้ และแต่ละฝ่ายสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูลเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐานข้อมูลได้พร้อมกัน
          5. มีความปลอดภัย การที่ข้อมูลมารวมอยู่ในที่เดียวกัน สามารถวางมาตรฐานในการแก้ไขและ ป้องกันได้ดีกว่า จึงไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลไปสู่ผู้ไม่ควรรู้ และสามารถกำหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะทำการตรวจสอบสิทธิ์ในการท างานกับข้อมูล เช่น การเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล และการเพิ่มข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล เป็นต้น
          6. ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน ก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูล ต้องมีการตกลง รูปแบบการเก็บอย่างเป็นเอกฉันท์เสียก่อน ทำให้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
          7. ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแลปรับปรุงอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ
        
          แต่อย่างไรก็ตาม ในการใช้ฐานข้อมูลนั้น ถึงแม้ว่าการประมวลผลด้วยระบบจัดการฐานข้อมูลจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็จะมีข้อเสียอยู่บ้างดังต่อไปนี้
          1. เสียค่าใช้จ่ายสูง
 เนื่องจากโปรแกรมที่ใช้ในระบบจัดการฐานข้อมูลจะมีราคาค่อนข้างแพง   รวมทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง คือต้องมีความเร็วสูง มีขนาดหน่วยความจำและหน่วยเก็บข้อมูลสำรองที่มีความจุมาก ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในการจัดท าระบบจัดการฐานข้อมูล
          2. เกิดความสูญเสียข้อมูลได้ เนื่องจากข้อมูลต่าง ๆ ภายในฐานข้อมูลจะถูกจัดเก็บอยู่ในที่เดียว กัน ดังนั้นถ้ามีการจัดเก็บข้อมูลเกิดมีปัญหา อาจทำให้ต้องสูญเสียข้อมูลทั้งหมดในฐานข้อมูลได้ ดังนั้นการจัดทำฐานข้อมูลที่ดีจึงต้องมีการสำรองข้อมูลไว้เสมอ


ตอนที่ 1   2. ทำการวัดและประเมินผลผลการผ่านจุดประสงค์

     1. ระบบจัดการฐานข้อมูล (DBMS) คืออะไร
          ตอบ      ข.  ตัวกลางระหว่างผู้ใช้กับฐานข้อมูล
     2.  หลังจากที่สร้างฐานข้อมูลแล้ว จะต้องสร้างออบเจ็กต์ใดเป็นอันดับแรก
          ตอบ      ก.  Table
     3.  ออบเจ็กต์ใดที่ทำหน้าที่การเก็บข้อมูลทั้งหมดลงฐานข้อมูล
          ตอบ      ข.  Query
     4.  ออบเจ็กต์ Query มีหน้าที่ทำอะไร
          ตอบ      ค.  สร้างแบบสอบถามข้อมูล
     5.  ข้อใดต่อไปนี้เป็นหน้าที่ของออบเจ็กต์ Form
          ตอบ      ข.  เก็บข้อมูลลงฐานข้อมูล
     6.  ข้อใดต่อไปนี้ ไม่ใช กฎของการ Normalization
          ตอบ      ข.  จะต้องมีความสัมพันธ์แบบเชิงกลุ่ม (Many-to-Many)
     7.  ข้อใด ไม่ใช่ ประโยชน์ที่ได้รับของระบบฐานข้อมูล
          ตอบ      ค.  ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย
     8.  ขั้นตอนใดต่อไปนี้เป็นขั้นตอนแรกในการออบแบบฐานข้อมูล
          ตอบ      ก.  กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้งาน
     9.  ส่วนประกอบต่อไปนี้เพิ่มเข้ามาใหม่ใน Access 2007 ยกเว้น ข้อใด
         ตอบ       ง.  Ribbon
     10.  ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด 
         ตอบ       ก.  เมื่อบันทึกฐานข้อมูลใน Access 2007 จะมีนามสกุล .accdb 

ตอนที่ 2   แบบจับคู่ คำชี้แจง ให้นักเรียนจับคู่คำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 

1.  ช.  DBMS                                  ก. แถบในการแสดงออบเจ็กต์ที่สร้างขึ้น
2.  จ.  Normalization                      ข. แบบสอบถามข้อมูล   
3.  ซ.  Office Button                      ค. ส่วนของพื้นที่การทำงานของออบเจ็กต่าง ๆ
4.  ญ. Quick Access Toolbar        ง.  ชุดคำสั่งกระทำการต่าง ๆ ที่นำมารวมกัน  
5.  ฌ. Ribbon                                   จ.  กฎที่ใช้ในการออบแบบตาราง
6.  ก.  Navigation Pane                  ฉ. โปรแกรมย่อยที่เขียนขึ้นภาษา VBA
7.  ค.  Document Window            ช.  ระบบจัดการฐานข้อมูล
8.  ข.  Query                                    ซ.  ปุ่มที่รวบรวมชุดคำสั่งในการจัดการฐานข้อมูล
9.  ง.  Macro                                    ฌ.  ส่วนการทำงานใหม่ที่เข้ามาแทนที่แถบเมนูและ
                                                                  แถบเครื่องมือ
10. ฉ. Module                                 ญ.  แถบเครื่องมือที่รวบรวมปุ่มเครื่องมือที่ใช้งานบ่อย ๆ
                                                                  เอาไว้ 

ตอนที่ 3   

    
1.  จงอธิบายถึงความหมายของฐานข้อมูล
           ฐานข้อมูล  (Database)  คือข้อมูลจำวนมากที่มีการจัดเก็บไว้อย่างเป็นระเบียบในลักษณะของตาราง และข้อมูลแต่ละตารางที่มีอยู่นั้นต่างมีความสัมพันธ์กัน ซึ่งในการสร้างตารางเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูล เป็นสิ่งที่ต้องทำป็นอันดับแรก หรือเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องนำปใช้งานต่อไป 

      
2.  ระบบฐานข้อมูลมีประโยชน์อย่างไร            
            1.  ลดความซ้ำซ้อนของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลของหน่วยงานซึ่งจัดเก็บไว้หลายที่ อาจมีข้อมูลใน ส่วนที่เหมือนกันหลายส่วน เช่น ฝ่ายบัญชี เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน และฝ่ายบุคคล เก็บข้อมูล ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ของพนักงาน เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูล จะทำห้ไม่เก็บข้อมูลซ้ำซ้อนกัน ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถเรียกใช้ข้อมูลที่ต้องการได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ในการจัดเก็บ และทำให้เกิดความรวดเร็วในการค้นหาและจัดเก็บข้อมูลอีกด้วย
            2.  ทำให้เกิดความสอดคล้องของข้อมูล ถ้ามีการแก้ชื่อ ถ้ามีการแก้ชื่อ ที่อยู่ ที่ฝ่ายบุคคล ชื่อและ ที่อยู่ที่ฝ่ายบัญชีก็จะถูกเปลี่ยนแปลงด้วย เนื่องจากฝ่ายบัญชีจะดึงข้อมูลชื่อและที่อยู่จากฝ่ายบุคคลมาใช้ ดังนั้นเมื่อมีการแก้ไขข้อมูลในที่ใดที่หนึ่ง ข้อมูลอีกที่หนึ่งก็จะถูกเปลี่ยนไปด้วย
            3.  ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ผู้บริหารระบบฐานข้อมูลสามารถกำหนดกฎเกณฑ์ในการนำ เข้าข้อมูล และระบบจัดการฐานข้อมูล จะคอยควบคุมให้มีการน าเข้าข้อมูลเป็นไปตามกฎเกณฑ์เพื่อให้มีความถูกต้อง
            4.  สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ การเก็บข้อมูลไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน จะสามารถกำหนดรูป
แบบที่แน่นอนได้ และแต่ละฝ่ายสามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้เพราะเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากระบบการจัดการฐานข้อมูลสามารถจัดให้ผู้ใช้แต่ละคนเข้าใช้ข้อมูลในแฟ้มที่มีข้อมูลเดียวกันได้ในเวลาเดียวกัน เช่น ฝ่ายบุคคลและฝ่ายการเงิน สามารถที่จะใช้ข้อมูลจากแฟ้มประวัติพนักงานในระบบฐานข้อมูลได้พร้อมกัน
            5.  มีความปลอดภัย การที่ข้อมูลมารวมอยู่ในที่เดียวกัน สามารถวางมาตรฐานในการแก้ไขและ ป้องกันได้ดีกว่า จึงไม่มีการรั่วไหลของข้อมูลไปสู่ผู้ไม่ควรรู้ และสามารถก าหนดรหัสผ่านเข้าใช้งานข้อมูลของผู้ใช้แต่ละราย โดยระบบการจัดการฐานข้อมูลจะท าการตรวจสอบสิทธิ์ในการท างานกับข้อมูล เช่น การเรียกดูข้อมูล การลบข้อมูล การปรับปรุงข้อมูล และการเพิ่มข้อมูลในแต่ละแฟ้มข้อมูล เป็นต้น
            6.  ขจัดความขัดแย้งในการใช้ข้อมูลร่วมกัน ก่อนที่จะมีการจัดเก็บข้อมูล ต้องมีการตกลง
รูปแบบการเก็บอย่างเป็นเอกฉันท์เสียก่อน ท าให้ไม่เสียเวลาในการพัฒนาระบบฐานข้อมูล
            7.  ข้อมูลที่จัดเก็บมีความทันสมัย เมื่อข้อมูลในระบบฐานข้อมูลได้รับการดูแลปรับปรุงอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ข้อมูลที่จัดเก็บเป็นข้อมูลที่มีความทันสมัย ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน และตรงกับความต้องการอยู่เสมอ 

      
3.  ใน Microsoft Access 2007 ประกอบไปด้วยออบเจ็กต์อะไรบ้าง และมีหน้าที่อย่างไร 
            1.Table ใช้ในการเก็บข้อมูลทั้งหมด
            2.Queries ช่วยค้นหาหรือสร้างแบบสอบถามข้อมูล
            3.Froms แบบฟอร์มในการทำงาน สำหรับจัดการกับข้อมูลแทนการจัดการในตาราง
            4.Report ใช้ในการสร้างรายงาน
            5.Macros ชุดคำสั่งที่นำมาร่วมกันตามขั้นตอนในการทำงานเพื่อให้การทำงานเป็นอัตโนมัติ
            6.Modules ช่วยให้ทำงานกับข้อมูลที่ซับซ้อนมากขึ้นได้

      
4.  จงอธิบายหลักการออกแบบฐานข้อมูลมาพอใจ
            ก่อนที่เราจะเริ่มสร้างฐานข้อมูลนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการออกแบบฐานข้อมูลเสียก่อน ว่าข้อมูลที่จะนำมาเก็บในฐานข้อมูลประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และมีการจัดเก็บในรูปแบบใด แล้วค่อยเริ่มต้นสร้างฐานข้อมูล
       
      
5.  จงยกตัวอย่างระบบงานที่ควรนำระบบฐานข้อมูลเข้ามาใช้ พร้อมทั้งอธิบายเหตุผล     
           งานทะเบียน เพราะว่าเป็นงานที่เกี่ยวกับประวัติของพนักงานหรือนักเรียนทั้งหมด ซึ่งมีข้อมูลต่างๆหลายอย่างมาเก็บข้อมูลไว้ได้ง่าย





 บทที่ 2   การวัดและประเมิณผ่านจุดประสงค์

ตอนที่1

1. ข้อใดกล่าวถึงความหมายของตาราง (table) ได้ชัดเจนมากที่สุด
    ค. ออบเจ็กต์ที่อยู่ในฐานข้อมูล
2. ข้อใดต่อไปนี้ กล่าวผิด
    ง. Attachment  เป็นชนิดข้อมูลสำหรับสร้างจุดเชื่อมโยง
3. ฟิวด์  (field)  หมายถึงอะไร
    ค. คอลัมน์
4. เรคคอร์ด (Record) หมายถึงอะไร
    ก. ตาราง
5. ชนิดข้อมูลแบบข้อความ (Text)  สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุดกี่ตัวอักษร
    ค. 255
6. ถ้าต้องการกำหนดฟิลด์ในการเก็บข้อความจำนวนมากๆ จะต้องเลือกชนิดข้อมูลแบบใด
    ข. Text
7. มุมมองที่ใช้ในการสร้างตารางด้วยการออกแบบเองคือมุมมองใด
    ก. Design View
8. ชนิดความสัมพันธ์ของตารางมีกี่แบบ
    ข. 3แบบ
9. ข้อใดต่อไปนี้ไม่สามารถ นำมาประกอบในการตั้งฟิลด์ข้อมูลได้
    ง. เคลื่องหมายจุด ( . )
10. ถ้าต้องการเรียงลำดับข้อมูลในตารางจากน้อยไปหามากจะต้องใช้เครื่องมือใด
      ค. Filter


ตอนที่ 2
1. Field                   ก. กำหนดรูปแบบในการป้อนข้อมูล 
2. Record                 ข. เก็บข้อมูลประเภทรูปภาพ
3. Memo                  ค. เรียงลำดับข้อมูลจากน้อยไปหามาก
4. OLE Object         ง. ข้อมูลในแนวแถว
5. Currency             จ. เก็บข้อมูลประเภทข้อความที่มีความยาวมาก ๆ
6. Attachment         ฉ. กำหนดรูปแบบการแสดงข้อมูล
7. Input Mark          ช. เรียงลำดับข้อมูลจากมากไปหาน้อย
8. Format                 ซ. เก็บข้อมูลที่เป็นตัวเลขทางการเงิน
9. Descending          ฌ. ข้อมูลในแถวคอลัมน์
10.Ascending          ญ. เก็บเอกสารและแฟ้มไบนารี่ทุกชนิดในฐานข้อมูล

ตอนที่ 3
1. จงอธิบายถึงประโยชน์ที่ได้รับจากการสร้างตาราง
ตอบ   จัดเก็บข้อมูลได้ง่าย สะดวก เร็ว และผิดพลาดได้ยากกว่าการคีย์ข้อมูลแบบธรรมดา
2. จงอธิบายถึงคุณสมบัติในการเลือกฟิลด์ข้อมูลที่จะนำมาเป็นคีย์หลัก (Primary Key)
ตอบ   ฟิลด์ที่มีข้อมูลในเรคคอร์ดไม่ซ้ำกัน
3. อธิบายถึงข้อความแตกต่างในการสร้าง ตารางด้วยมุมมองการออกแบบ (Table Design) และมุมมองแผ่นตารางข้อมูล(Datasheet View)
ตอบ   Table Design เป็นมุมมองที่ใช้ในการกำหนดตาราง
           Datasheet View เป็นมุมมองที่มใฃ้ในการป้อนข้อมูลที่ต้องการเก็บลงในตาราง
4. จงบอกขั้นตอนในการสร้างตารางด้วยมุมการออกแบบมีขั้นตอนอย่างไร
ตอบ   4.1  ไปที่ Create 
           4.2  ไปที่ Table Design ในกลุ่มของtable จะมีตารางข้อมูลเปล่า
           4.3  กำหนดฟิลด์ข้อมูล แล้วกด Tab เพื่อไปอีกช่องหนี่ง 
           4.4  เลือกชนิดข้อมูล
           4.5  กำหนดคำอธิบายฟิลด์ 
           4.6  กำหนดคุณสมบัติฟิลด์เพิ่มเติม
           4.7  กด save จาก quick Acces Toolbar
           4.8  กำหนดชื่อตาราง 
           4.9  กด Ok
           4.10  จะมีไดอะล็อกบ็อกซ์ให้กำหนดคีย์หลัก
5. ในการสร้างตาราง ด้วยการออกแบบ Template มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร 
ตอบ   ข้อดีคือสร้างได้รวดเร็ว ข้อเสียคือมีความสลับซับซ้อนในการทำ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น